ข้อมูลเพิ่มเติม:อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา โทร. 0 7647 2145-6, 0 7649 1378, 0 7649 1582
ททท.พังงา 076 481 900-2
เฟสบุ๊ค TAT Pangnga
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ครั้งแรกในการเดินทางไปหมู่เกาะสุรินทร์หลังจากการเกิดเหตุการณ์ซึนามิที่ทุกคนคงรู้ดีว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เราต้องสูญเสียครั้งใหญ่ ไม่เฉพาะชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึงทรัพยากรธรรมชาติที่เคยสวยงามติดอันดับโลก จากนั้นมาได้ยินหลายคนพูดถึงหมู่เกาะสุรินทร์ว่ากลายเป็นสุสานปะการังฟอกขาว การที่เราจะตัดสินใจมาเที่ยวเกาะสุรินทร์ยังคิดหลายตลบ แต่เอาละถ้าฟังแต่ข่าวลือก็แย่ละสิเราต้องทำหน้าที่เป็นคนนำเสนอเรื่องราวอัพเดทล่าสุดให้ประชาชนที่อุตส่าห์เปิดมาอ่านเว็บเราอยู่แล้วนี่ งั้นก็ไปกันเลย
การเดินทางมาเที่ยวเกาะสุรินทร์มันต้องมีการวางแผนที่รอบคอบ เรือออกเดินทางเช้ามากคือช่วง 8.00-9.00 เรือออกจากฝั่งกันหมดแล้ว ฉะนั้นเราต้องมาหาที่พักให้ไม่ไกลจากคุระบุรี ถ้าเราพักเขาหลักเราต้องเผื่อเวลาเดินทางเอาไว้หน่อย ออกเดินทางซัก 7.30 น. ก็พอจะทันสำหรับการหาเรือไปเที่ยว บริษัทที่ให้บริการเรือนำเที่ยวและเรืออุทยานมีอย่างที่สาธยายไว้ข้างบน ทริปนี้เราเลือกกรีนวิวทัวร์ และต้องไปจอยกับลูกทัวร์กลุ่มใหญ่ที่แน่นอนว่าเค้าพูดไทยไม่ได้เลย 555 เราจะนั่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเรือไปตลอดวัน
โลมากระโดด เรือที่เรานั่งวันนี้จะออกจากท่าเรือประมาณ 9.30 น. แล้วใช้เวลาอีกประมาณชั่วโมงครึ่งไปยังเกาะสุรินทร์ วันนี้ฟ้าใสอากาศดี และโชคดีเข้าข้างเราระหว่างทางฝูงโลมาชวนกันมาว่ายน้ำกระโดดโชว์ให้ดูฟรีๆ ตั้งหลายตัว ทำเอาคนบนเรือต่างก็อยู่ไม่ติดพยายามมาหาช่องว่างที่จะมองเห็นโลมา ได้เห็นมันกระโดดโชว์หลายรอบ ว่ายน้ำลอดท้องเรือโชว์ก็บ่อย เวลาผ่านไปพักใหญ่เราก็ต้องลาโลมาเดินทางกันต่อไป
ถึงจุดดำน้ำจุดแรก ห่างจากที่ทำการอุทยานหมู่เกาะสุรินทร์ไม่ไกลเป็นจุดที่น่าจะสวยที่สุดของวันนี้ ทุกคนก็พากันลงน้ำพร้อมชูชีพ สน๊อกเกิล ฟิน และกล้องที่เตรียมกันมา ส่วนใหญ่คนจะใช้ GoPro (ไม่ต้องบอกก็รู้เนาะ อิอิ) มีแต่เราที่ยังคงใช้กล้องกันน้ำหน้าตาสี่เหลี่ยมของ Nikon ซึ่งอายุเก่าพอสมควรแต่ก็เก็บภาพใต้น้ำมานักต่อนัก
สิ่งที่เราได้เห็นใต้ท้องทะเลของหมู่เกาะสุรินทร์ลบคำพูดที่ว่าเป็นสุสานปะการังฟอกขาวออกไปซะหมดเลย เราได้เห็นปะการังเขากวางขนาดไม่ใช่เล็กๆ เรียกว่าใหญ่มากแล้วสำหรับทะเลที่เคยถูกซึนามิทำลาย ช่วงเวลาไม่นานหลังจากนั้นปะการังเขากวางเติบโตได้เยอะมากๆ มีหลายสีอยู่ไม่ไกลกัน ที่สำคัญไม่ค่อยได้เห็นหอยเม่นเลยทำให้การดำน้ำของเราเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน
ปลานกแก้ว ดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล เป็นสิ่งที่เราพยายามจะเก็บภาพมาให้ดูคิดว่าน่าจะพอหาได้ ที่ไหนได้ไม่ใช่แค่มีปลานกแก้วเยอะอย่างเดียวแต่มันตัวใหญ่มากกก ยาวประมาณศอกนึง และสามารถถ่ายแบบใกล้ๆ ได้ด้วย โชคดีจุงเบยวันนี้ ปลาไม่ค่อยตื่นคนและหากินตามปกติ หลังจากการเข้มงวดเรื่องการเอาอาหารมาให้ปลาอะไรๆ ก็ดีขึ้นไม่มีใครเอาขนมมาโปรยและปลาก็ไม่ได้อยากเข้ามาขออาหารมันว่ายไปหากินตามปกติ
ปลาการ์ตูนนีโม่ นอกเหนือจากปลานกแก้ว เรายังได้ภาพดอกไม้ทะเลมาอีก 2-3 กอ พลิ้วไสวสวยงามอยู่ใต้ทะเลพร้อมกับเจ้าถิ่น ปลานีโม่ ปลาการ์ตูนที่น่ารักที่ใช้ดอกไม้ทะเลเป็นบ้านเหมือนในหนังการ์ตูน น่ารักฝุดๆ
ดาวขนนก เป็นดาวชนิดหนึ่ง (มันไม่ใชปลานะอย่าไปเรียกปลาดาว) นี่เป็นครั้งแรกของการดำน้ำมาหลายต่อหลายที่ในประเทศไทยที่เราได้ภาพดาวขนนกแบบเป็นๆ ในธรรมชาติจริงๆ ดีใจมากอะ
ปลาสิงโต เป็นปลาที่ค่อนข้างหาตัวยาก บางทีมันก็อยู่ไม่ไกลจากเรามากแต่ลวดลายของมันทำให้เรามองไม่เห็น ปลาชนิดนี้ชอบอยู่นิ่งๆ ไม่ค่อยขยับ หนามของมันถ้าโดนเราเข้าให้พิษร้ายยิ่งกว่าหอยเม่นอันนี้ต้องระวัง สรุปว่าวันนี้เราดำน้ำ 3 จุดรอบๆ เกาะสุรินทร์ จากทั้งหมดที่เปิดให้ดำน้ำได้มีประมาณ 10 จุด และที่ไม่เปิดอีกเพียบ เราได้เห็นปลามากกว่า 20 ชนิด ตอนเดินมาดูป้ายบอร์ดของอุทยาน ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะเห็นปลามากขนาดนั้นแต่ของเอาเฉพาะเด็ดๆ มาให้ดูกันพอได้รู้ว่าทะเลมันดีขึ้นเยอะแล้วก็พอเนาะ อยากเห็นเต็มๆ มีทางเดียวคือต้องไปดูเองจ้า
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ช่วงเวลาพักกลางวัน ปกติเราจะดำน้ำได้จุดเดียวในครึ่งเช้าแล้วจะต้องขึ้นมากินข้าวบนเกาะตรงที่ทำการอุทยาน ไม่ว่าจะมาทัวร์ไหนก็ต้องมากินที่นี่เท่านั้น อันนี้เพิ่งรู้ ทุกคนก็ลงจากเรือเดินไปตรงที่กินข้าว เป็นบุฟเฟต์ตักกินเอง กินเสร็จเอาจานไปเก็บเข้าที่แบบผู้มีวัฒนธรรม เหลือเวลาอีกหน่อยพอให้เราเดินเล่นถ่ายรูปรอบที่ทำการ หรือจะเลือกลงดำน้ำหน้าหาดอีกสักจุดก็ได้ตามอัธยาศัย บนนี้มีบ้านพักกับเต็นท์ให้เช่าด้วยอันที่จริงถ้ามีเวลาก็อยากนอนบนเกาะสักคืนเหมือนกัน ดำน้ำหลายๆ จุดคงจะดีบรรยากาศก็สุดยอดจริงๆ
บ่าง บ่าง เป็นเจ้าถิ่นของเกาะสุรินทร์ ใครมาเกาะนี้ไม่ได้เห็นบ่างคงต้องเสียดายแย่ มันเกาะต้นไม้นอนกลางวันอย่างสบายใจให้เราถ่ายรูปแต่ถ้าเราเสียงดังเอะอะจนมันนอนไม่หลับมันก็จะไปหาที่สูงขึ้น
กินข้าวเสร็จอิ่มหนำสำราญ มีกาแฟและเครื่องดื่มบริการ ทั้งหมดรวมอาหารอยู่ในราคาแพคเกจทัวร์ของเราไม่ต้องกังวลเราก็กินไปเรื่อยๆ มีขนมอีกหลายอย่างด้วยนะ เสร็จแล้วเราก็ออกเดินสำรวจรอบเกาะเป็นการย่อยอาหารไปด้วยในตัว ถ่ายรูปชิลๆ กันได้อีกหลายมุมแล้วก็ต้องเดินทางกันต่อตามโปรแกรมของทัวร์ที่เรามา ปกติก็จะมีหมู่บ้านมอแกนรวมอยู่ในโปรแกรมด้วย
หมู่บ้านมอแกน นั่งเรือแป๊บเดียวจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ก็มาถึงหมู่บ้านมอแกน ชาวบ้านเล่าว่าชาวมอแกนเดิมทีอาศัยอยู่ในเรือ เป็นเรือเล็กๆ มีหลังคา ล่องลอยอยู่ในทะเลใกล้ๆ เกาะ พูดได้หลายภาษา ทั้งมาเลเซีย พม่า และไทย หลังๆ ก็ได้มีการจัดการสร้างหมู่บ้านมอแกนขึ้นเพื่อให้อยู่เป็นหลักแหล่ง ชาวมอแกนมีวิถีชีวิตเรียบง่ายมาก ใส่เสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นแต่หลังๆ เค้าก็ใส่มิดชิดขึ้นกว่าเดิมมาก เด็กๆ ชาวมอแกนทุกคนชอบเล่นน้ำไม่มีใครว่ายน้ำไม่เป็น ที่สำคัญกว่านั้นเด็กๆ หลายคนขับเรือหางยาวเป็นตั้งแต่ตัวเล็กๆ ผู้ชายออกหาปลา ผู้หญิงอยู่บ้านดูแลลูกๆ ตอนนี้ยามว่างก็มีการทำของมาวางขายผู้ชายจะทำเรือจำลองเล็กๆ ผู้หญิงก็จะร้อยลูกปัดทำสร้อยข้อมือ เอาเป็นว่าเล่ากันคร่าวๆ ถ้าอยากรู้ลึกๆ รายละเอียดมากกว่านี้คลิกไปอ่านที่รีวิวหมู่บ้านมอแกนเกาะสุรินทร์ พังงา กันได้เลยจ้า
จบการพาเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ฉบับอัพเดท 2560 เอาไว้เท่านี้ก่อนมีโอกาสพบกันใหม่แน่นอน
ขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานพังงา คร้าบ
"ประกาศจากอุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์จะปิดเพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้น ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2560 และจะเปิดอีกครั้งในช่วงประมาณ ตุลาคม (ติดตามข่าวกันด้วยจ้า) ฉะนั้นแล้วใครอยากไปเที่ยวละก็ปีนี้ต้องรีบหน่อยนะจ๊ะ จุ๊ฟๆ"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-04-22 12:44:58
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ