ตลาดประมงท่าเรือพลี

 ตลาดประมงท่าเรือพลี สถานที่ที่จัดในรูปแบบตลาดนัด เปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ตามนโยบายด้านการฟื้นฟูตลาดประมงของอำเภอเมืองชลบุรี เพื่อส่งเสริมการค้าอาหารทะเล การประกอบอาชีพประมง เสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในชุมชนชาวเลให้เพิ่มมากขึ้น โดยครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางปลาสร้อย มะขามหย่ง บ้านโขด บางทราย และตำบลบ้านสวน ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพประมงเชิงอนุรักษ์ โดยใช้เรือขนาดเล็กและอุปกรณ์แบบภูมิปัญญาท้องถิ่นในการจับกุ้ง หอย ปู ปลา จนเป็นสินค้าและเอกลักษณ์ของชาวชลบุรี โดยจัดให้มีตลาดประมงท่าเรือพลี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซื้ออาหารทะเลสดจากเรือประมง และรับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศเหนือน้ำทะเล หรือทะเลโคลนยามน้ำลง พร้อมกับชมวิวยามพระอาทิตย์อัสดง ผสมผสานบ้านเรือนและวิถีชีวิตชาวเล ซึ่งเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่น่าสนใจของจังหวัดชลบุรี ปรากฏว่าได้รับการตอบรับด้วยดี มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดให้มีการปรับภูมิทัศน์เป็นจุดชมวิวยามพลบค่ำมากยิ่งขึ้น เพื่อสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น

 การเดินทางไปยังตลาดประมงท่าเรือพลี นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เข้าตัวเมืองชลบุรีไปตามเส้นทางศูนย์ราชการก็ได้ แล้วจากนั้นขับเลยไปทางสะพานข้ามทะเล ไปตามสะพานเรื่อยๆ ตลาดท่าเรือพลีสังเกตุง่าย มีร่มของร้านค้ากางจำนวนมากเป็นแนวเรียงเข้าไปตามเส้นทางเข้าชุมชนไกรเกรียงยุค

 สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยเส้นทางในชลบุรีถ้ามาจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขุมวิืท (สายเก่า) หรือบางนา-ตราด ก็แล้วแต่ถนัด ตรงเข้าตัวเมืองชลบุรี ถ้าเจอป้ายที่เขียนว่าทางเลี่ยงเมืองไม่ต้องสนใจ ขับตรงต่อไปจะมีสามแยกไฟแดง เป็นแยกซ้ายเข้า บขส. ชลบุรี (ไม่ต้องเลี้ยว) ตรงไป อีกจะเห็นซุ้มประตูโรงเรียนสุขบท กับวัดเขาพระพุทธบาทบางทราย ตรงไปอีกประมาณ 600-800 เมตร พยายามหาที่กลับรถ จากนั้นขับมาชิดซ้ายไว้มองหาป้ายซอยบางทราย 16 ถ้าเลยมาเจอซอยบางทราย 18 หรือ บางทราย 20 ก็เลี้ยวได้เพราะทะลุถึงกันได้ จากนั้นถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ถนนนี้เรียกว่าถนนเลียบชายทะเล ตรงมาอีกหน่อยพยายามมองแยกขวามือจะมีป้ายบอกทางไปตลาดประมงท่าเรือพลี ตรงนี้เป็นซอยบางทราย 37 สุดซอยนี้จะเชื่อมกับสะพานข้ามทะเลไปถึงตลาดประมงท่าเรือพลีได้เลย

 ถ้ามามอเตอร์เวย์หรือทางพิเศษระหว่างเมือง (หมายเลข 7) หรือมาสุขุมวิทแต่มาทางเลี่ยงจะทำยังไง ถึงแยกที่ตัดทางหลวงหมายเลข 344 ให้ออกจากทางเลี่ยง หรือมอเตอร์เวย์แล้วแต่กรณี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 344 มุ่งหน้าตัวเมืองชลบุรี เข้าในเมืองแล้วมุ่งหน้าทิศตะวันตก ระวังเฉพาะทางวันเวย์จะพาหลง แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เมื่อมาถึงถนนสุขุมวิทในเมืองชลบุรีจะเลี้ยวซ้ายแล้วไปเลี้ยวขวาแยกถนนโรงพยาบาลเก่าตรงไปเรื่อยๆ ทางบังคับเลี้ยวขวาไปที่สะพานข้ามทะเลไปเรื่อยๆ ก็ถึงตลาดประมงท่าเรือพลีเหมือนกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. พัทยา โทร. 0 3842 7667, 0 3842 8750 Call Center 1337
http://www.tourismthailand.org/pattaya

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

การเดินทางสู่ตลาดประมงท่าเรือพลี ผมเขียนไว้ข้างบนแล้ว ขอก๊อปมาวางอีกรอบหนึ่งแล้วกันนะครับเพราะเป็นเรื่องที่มีคนถามอยู่เรื่อยๆ ส่วนแผนที่ผมทำเอาไว้ให้แล้วในลิงค์ดูแผนที่ ดูจาก Google Map น่าจะช่วยได้เยอะเพราะย่อขยายได้ เอาไปตั้งในมือถือที่มี Google map ให้นำทางก็ได้ ภาพนี้เป็นภาพที่ผมขึ้นไปถ่ายบนยอดเขาพระพุทธบาทบางทรายมองเห็นสะพานชัดๆ เลยทีเดียวนั่นคือที่ตั้งตลาดประมงท่าเรือพลี

การเดินทางไปยังตลาดประมงท่าเรือพลี นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เข้าตัวเมืองชลบุรีไปตามเส้นทางศูนย์ราชการก็ได้ แล้วจากนั้นขับเลยไปทางสะพานข้ามทะเล ไปตามสะพานเรื่อยๆ ตลาดท่าเรือพลีสังเกตุง่าย มีร่มของร้านค้ากางจำนวนมากเป็นแนวเรียงเข้าไปตามเส้นทางเข้าชุมชนไกรเกรียงยุค

สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยเส้นทางในชลบุรีถ้ามาจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) หรือบางนา-ตราด ก็แล้วแต่ถนัด ตรงเข้าตัวเมืองชลบุรี ถ้าเจอป้ายที่เขียนว่าทางเลี่ยงเมืองไม่ต้องสนใจ ขับตรงต่อไปจะมีสามแยกไฟแดง เป็นแยกซ้ายเข้า บขส. ชลบุรี (ไม่ต้องเลี้ยว) ตรงไป อีกจะเห็นซุ้มประตูโรงเรียนสุขบท กับวัดเขาพระพุทธบาทบางทราย ตรงไปอีกประมาณ 600-800 เมตร พยายามหาที่กลับรถ จากนั้นขับมาชิดซ้ายไว้มองหาป้ายซอยบางทราย 16 ถ้าเลยมาเจอซอยบางทราย 18 หรือ บางทราย 20 ก็เลี้ยวได้เพราะทะลุถึงกันได้ จากนั้นถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ถนนนี้เรียกว่าถนนเลียบชายทะเล ตรงมาอีกหน่อยพยายามมองแยกขวามือจะมีป้ายบอกทางไปตลาดประมงท่าเรือพลี ตรงนี้เป็นซอยบางทราย 37 สุดซอยนี้จะเชื่อมกับสะพานข้ามทะเลไปถึงตลาดประมงท่าเรือพลีได้เลย ถ้ายากและดูวุ่นวายไปให้ตรงไปเลี้ยวขวาแยกถนนโรงพยาบาลเก่าแล้วขับตามถนนไปเรื่อยๆ จะมีบังคับเลี้ยวขวาไปที่สะพานข้ามทะเล เดี๋ยวก็เห็นตลาดท่าเรือพลีอยู่ขวามือ

ถ้ามามอเตอร์เวย์หรือทางพิเศษระหว่างเมือง (หมายเลข 7) หรือมาสุขุมวิทแต่มาทางเลี่ยงจะทำยังไง ถึงแยกที่ตัดทางหลวงหมายเลข 344 ให้ออกจากทางเลี่ยง หรือมอเตอร์เวย์แล้วแต่กรณี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 344 มุ่งหน้าตัวเมืองชลบุรี เข้าในเมืองแล้วมุ่งหน้าทิศตะวันตก ระวังเฉพาะทางวันเวย์จะพาหลง แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เมื่อมาถึงถนนสุขุมวิทในเมืองชลบุรีจะเลี้ยวซ้ายแล้วไปเลี้ยวขวาแยกถนนโรงพยาบาลเก่าตรงไปเรื่อยๆ ทางบังคับเลี้ยวขวาไปที่สะพานข้ามทะเลไปเรื่อยๆ ก็ถึงตลาดประมงท่าเรือพลีเหมือนกัน

ตลาดประมงท่าเรือพลี เวลาบ่าย 3 โมง ตามที่ผมได้รับข่าวสารจากสำนักข่าวแห่งประเทศไทยว่าตลาดประมงท่าเรือพลีจะเปิดทำการเวลา 16.00 น. ซึ่งผมก็รู้แล้วละว่าต้องไปก่อนสัก 1 ชั่วโมง ผมจัดทริปเที่ยวชลบุรีแบบเล็กๆ ง่ายๆ ขึ้นเขาบางทรายสักการะพระพุทธบาทจำลอง จากนั้นไปไหว้พระที่หอพระพุทธสิหิงค์เป็นสิริมงคล ไปกินข้าวกลางวันที่อ่างศิลา ชมความงามของศาลเจ้านาจา หรือหน่าจาไท้จือ ขึ้นไปให้อาหารลิงบนยอดเขาสามมุกลงมาไหว้ศาลาฤๅษีที่เชิงเขา เอาไว้คลิกเข้าไปดูตามลิงค์ต่างๆ ที่เขียนไว้ละกันครับถ้าอยากเห็นว่าแต่ละที่เป็นยังไงบ้าง หลังจากนั้นเป็นเวลาที่ผมจะขับจากอ่างศิลาเข้าเมืองชลบุรีตรงไปที่สะพานข้ามทะเลเบื้องล่างเป็นเลนหรือโคลน มีนกหลายชนิดมาหากิน ปลาตีนก็มาเดินเล่นหากินอย่างสนุกสนาน มองเข้าไปเห็นตัวเมืองชลบุรี เวลาบ่าย 3 โมง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่ามาบ่าย 3 แล้วยังหาที่จอดใกล้ๆ กับตลาดประมงท่าเรือพลีไม่ได้เลย เราต้องจอดห่างจากตลาดประมาณ 500 เมตร ต่อท้ายรถที่มากันอย่างต่อเนื่องและค่อยๆ ยาวออกๆ เรื่อยๆ หลายคนมาถึงทีหลังก็ขับวนไปวนมารอบๆ สะพานข้ามทะเลหาที่จอดที่ใกล้ที่สุด ทั้ง 2 ฟากของถนนบนสะพานมีรถจอดยาวเหยียดไม่แพ้กัน ระหว่างที่เดินมาที่ตลาดประมงท่าเรือพลีจะมีรถสุขาเคลื่อนที่มาจอดรอให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆ เบื้องล่างของตลาดนัดมีเรือประมงขนาดเล็กจอดอยู่เรียงรายเป็นประจำทุกวัน

ปากทางตลาดประมงท่าเรือพลี ป้าย 2 ป้ายอยู่หัวมุมถนนแยกทางเข้าตลาดประมงท่าเรือพลี ป้ายแรกชื่อซอย ซอยที่ตั้งของตลาดท่าเรือพลีคือซอย ท่าเรือพลี-ศรีนิคม การตั้งชื่อซอยนี้น่าจะมาจากการที่ซอยสั้นๆ ที่เชื่อมจากตลาดสดมายังสะพานข้ามทะเลนี้อยู่ระหว่างซอยท่าเรือพลี กับซอยศรีนิคมนั่นเอง อีกป้ายหนึ่งบอกชื่อชุมชนเกรียงไกรยุค ปากซอยเป็นบริเวณที่จัดไว้ให้จอดรถจักรยานยนต์ เพื่อความสะดวก จากนั้นเดินเข้าไปกันเลยดีกว่า

บรรยากาศตลาดประมงท่าเรือพลี เข้ามาแล้วก็จะเป็นร้านค้าจำนวนมากทั้ง 2 ด้านของซอยแห่งนี้ ประกอบไปด้วยอาหารล้วนๆ ไม่เห็นมีสินค้าอย่างอื่นๆ มาวางขาย (ที่จริงก็หวังว่าจะได้เห็นเสื้อยืดลายตลาดประมงท่าเรือพลี อยู่นะแต่ไม่มีครับมีแต่ของกินจริงๆ) ปากซอยที่ผมจะขอเรียกว่าหัวตลาดนี้จะเป็นที่ตั้งของแผงเล็กๆ ขายของกินแบบที่กินได้เลยเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่ามันจะขาดไม่ได้ซึ่งอาหารประเภทปิ้ง-ย่าง อย่างหมึกไข่ และ แจงลอน ส่วนอีกร้านที่มีไอเดียแนวใหม่ขายขนมที่มีหน้าตาน่ารักจนไม่อยากจะกิน ด้วยฐานที่ทำจากชอคโกแลต มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ ยืนอยู่ด้านบน ที่เห็นนี้กินได้ทั้งอัน สนนราคาที่คู่ละ 15 บาท ห่อด้วยถุงพลาสติกใสให้ตัวละถุง ความน่ารักของขนมทำหนูน้อยคนนี้คิดอยู่นานเพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะกินโดเรมอนหรือโปเกมอนดี

บรรยากาศตลาดประมงท่าเรือพลี ภาพต่อมานี้จะให้ชมร้านค้าไปเรื่อยๆ ให้เห็นว่ามีอาหารแบบไหนบ้างที่จะมาซื้อหากันได้ที่ตลาดประมงท่าเรือพลี ทีแรกผมก็ถ่ายร้านด้านซ้ายบ้าง-ขวาบ้าง แต่มาคิดๆ ดูคงจะช้าเลยเดินชิดขวาเข้าตลาดแล้วกลับออกมาอีกด้านหนึ่งจะดีกว่าไม่งั้นเดินข้ามไปข้ามมาค่ำก่อนพอดี
การเลือกซื้อของกินที่นี่เนื่องจากมีร้านค้ามาเปิดร้านกันมาก แต่ละร้านมีอาหารประเภทเดียวกันซ้ำกันอยู่หลายร้านงานนี้ต้องอาศัยการลองผิดลองถูกสำหรับคนมาครั้งแรก จนกว่าจะพบร้านที่ทำรสชาตได้ถูกใจที่สุดจากนั้นก็เป็นขาประจำกัน แต่ละเมนูที่จะพูดถึงต่อไปนี้จะให้ชมภาพเมนูละ 1 ภาพ มาจาก 1 ร้าน โดยคัดเลือกร้านที่จัดวางได้สวยงามแต่จะย้ำอีกครั้งว่ามันมีหลายร้านมากๆ สำหรับทัวร์ออนไทยคงไม่แนะนำว่าร้านไหนอร่อยกว่าเพราะยังกินไม่หมดทุกร้าน ลองไปดูกันเองนะครับ เทคนิคที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการเดินแบบเดียวกับเราคือเดินดูอย่างเดียวไปให้จบทุกร้านแล้วคราวนี้ก็ตัดสินใจกันว่าจะซื้อจากร้านไหนมากิน การที่จะเดินไปกินไปหรือจะซื้อมาเป็นกล่องใหญ่แล้วหาที่นั่งว่างๆ กลางตลาดที่จัดไว้ให้ก็ตามความสะดวกของแต่ละคน ถ้ามาเป็นครอบครัวซื้อเยอะก็ควรจะมานั่งกินด้วยกัน ถ้ามากันไม่กี่คนชอบคนละอย่างก็แยกซื้อแบบกินได้เลยแล้วเดินต่อก็จะดี
นอกเหนือจากของกินที่มันกินได้ทันทีแบบปรุงให้พร้อมสำเร็จรูปแล้วก็มีอาหารทะเลสดแต่ดูเหมือนสัดส่วนจะมีน้อยกว่าของสุกแล้วเพราะจะดึงดูดลูกค้าที่มาเดินที่ตลาดประมงท่าเรือพลี ได้มากกว่าที่จะมาขายปลาสด ปลาเค็มก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี กุ้งสด ปูสด ปลาสด ก็มีเยอะให้เลือกตามอัธยาศัย

ของกินตลาดประมงท่าเรือพลี นี่ก็เป็นภาพจากหลายร้านมารวมกัน บางร้านขายกุ้งสดคู่กับปูสด บางร้านก็มีปลาสด ปลาแดดเดียว ปลาเค็ม ก็ว่ากันไปตามความสนใจของแต่ละท่าน ของสุกที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ หมึก กุ้ง ปู ซึ่งเป็นการปรุงแบบง่ายๆ รวดเร็ว กินง่าย อย่างการย่าง การอบ การนึ่ง และการทอด แต่กับข้าวอย่างอื่นๆ ก็มีให้เลือกเหมือนกัน หลายรายการที่ขายดีเพราะมันกินได้เลยไม่ต้องพึ่งใคร ไม่ต้องมีข้าวก็ได้กินเล่นๆ เดินเลือกเดินชมกันไปได้เรื่อยๆ สำหรับปูก็มีแบบทุบเปลือกให้ หรือมาเป็นตัวก็ว่ากันไปเอากลับบ้านไปจัดการกันเอง ปูแกะก้ามให้สำเร็จใส่กล่องตามจำนวนที่เหมาะสมกับราคาวางให้เลือกมากมายไม่ต่ำกว่า 10 ร้าน จะเป็นปูม้า ปูไข่ ปูเนื้อ อะไรก็ว่ากันไป

หนวดหมึกย่าง นี่ก็เป็นของโปรดของผู้เขียน เดิมทีหลายปีก่อนได้เห็นร้านหมึกย่างอ่างศิลาอยู่หน้าปั๊มแทบทุกปั๊ม ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยได้เห็นกันแล้ว พอมาเจอกันอีกทีที่ตลาดประมงท่าเรือพลี ก็เกิดน้ำลายสอกันทันที ถ้ามาพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ดของแต่ละร้าน สุดยอด...

กุ้งย่าง งานนี้ก็ต้องร้องเพลง น้องกุ้งถูกเผา น้องกุ้งถูกเผา มันจะโดนไม้เสียบ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา อ้าวไม่มี กุ้งไม่มีตูดซ้าย-ขวา แต่เสียบเข้าไปตรงๆ แทนพอย่างได้ที่แล้วกุ้งจะได้ไม่งอ เมนูนี้เหมาะกับคนที่ชอบการแกะเปลือก สำหรับบางคนที่อาจจะเป็นห่วงเล็บสวยทำมาใหม่ๆ ราคาสูงลิบไม่ควรซื้อมากิน หันไปเลือกเมนูอื่นจะเหมาะกว่า

หมึกกรอบๆ น้ำจิ้มหวานๆ นี่ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ค่อนข้างแหวกแนว หมึกสดๆ ที่ตลาดประมงท่าเรือพลีมีจำนวนมากมาย จะเป็นไรไปที่จะเอาหมึกแห้งแบบนี้มาขายกันบ้าง แต่ทำไมก็ไม่รู้หมึกสดเน้นน้ำจิ้มเปรี้ยว หมึกแห้งเน้นน้ำจิ้มหวาน ความคิดการประดิษฐ์เมนูอาหารไทยนี่ลึกซึ้งจริงๆ

หมึกไข่ย่างกันยาวๆ นี่ละครับจะเป็นพระเอกของงาน บางร้านย่างทีละน้อยๆ บางร้านย่างกันทีละเยอะๆ ขนาดของเตาก็ต่างกันไป พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดประมงท่าเรือพลีจะต้องทำการพยากรณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวันตามสภาพอากาศ และปัจจัยอื่นๆ แต่ถ้ามั่นใจก็ย่างไว้มากๆ เพราะเห็นแบบนี้พอคนเดินมาเลือกซื้อ ไม่นานก็จะหมดไป บางคนถึงกับต้องยืนรอให้หมึกสุกกันเลยทีเดียว

หอยแครงมาพร้อมน้องกุ้ง ที่จริงร้านนี้มีของหลายอย่างให้เลือกนะ บางร้านที่ขายหอยนางรมสดผมไม่ได้เอารูปขึ้นมาโพสต์ก็ต้องขออภัยเพราะมันถ่ายยากไปหน่อยหอยนางรมสดๆ อยู่ในถุง ไปยืนจ้องๆ มันมันก็ยังขยับได้อยู่ อุ๋ยหยา... กินไม่ไหวจริงๆ แบบนี้ เครื่องเคียงหอยนางรมอย่างยอดกระถินก็มีคนบ่นว่าได้น้อยบางร้านเลยขายยอดกระถินแยกต่างหากซะเลย ก็ว่ากันไปลองหาดูครับ อีกอย่างที่น่าจะขาดไปบ้างในรูปก็คือร้านเครื่องดื่ม มีกระจัดกระจายกันอยู่หลายจุด ขายเครื่องดื่มครบทุกชนิดให้เลือกไปลองเดินๆ หาดูดีๆ ส่วนร้านนี้ประทับใจกุ้งอบเพราะจัดมาให้เป็นชุดเรียงรายกันยาวกว่าครึ่งแผง

สารพัดเมนูที่ตลาดประมงท่าเรือพลี เอาละขยับเข้าไปอีกหน่อย เมนูอื่นๆ ที่นอกเหนือจากหมึกก็เริ่มมีมาให้เห็น สำหรับอาหารทะเลสด และสินค้าแปรรูปต่างๆ ก็มีเหมือนกัน อย่างกุ้งแห้งสีสันสดใสงามตาน่าซื้อ ส่วนหอยก็เริ่มจะมีบทบาทขึ้นมาบ้าง เริ่มมีหอยหลายชนิดมาพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ดเจ้าของร้านท้าให้ลองลิ้มชิมรสไม่ซื้อไม่ว่ากัน ส่วนเมนูจำพวกกุ้งก็ยังอวดลำตัวอวบอิ่มเปลือกนิ่มๆ เพราะเพิ่งผ่านการอบมาน่าสนใจ ขนาดของกุ้งก็ต่างกันไปมีให้เลือกยังกับไข่ไก่ เลือกเอาขนาดที่ถูกใจตามราคาที่ติดไว้แล้วก็เดินต่อ

อาหารไม่ทะเลมีมั้ย คำตอบก็คือที่ตลาดประมงท่าเรือพลี ไม่ได้มีแต่อาหารทะเล หรือไม่ได้มีแต่ปลาสด หมึกสด กุ้งสด อย่างเช่นหอยเชอรรี่ มีน้ำจิ้มให้ สำหรับบางท่านที่อาจจะเกรงกลัวเรื่องคอเลสเตอรอล นอกจากนั้นบางรายก็มาไกลจากอัมพวา ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เปิดสาขาท่าเรือพลี จัดเป็นคำๆ เรียงลงในกล่องพลาสติกใส อิ่มไม่เบาสำหรับเมนูนี้ถัดเข้าไปอีกมีร้านอาหารทะเลสดมีแบบชำแหละมาให้เสร็จสรรพ เผื่อว่าจะเอากลับบ้านมาทำเอง

ของน่ากินที่เห็นบ่อย ผ่านเมนูเบาๆ แบบเดินถือไปกินไปมาหลายรายการแล้ว เอาแบบหนักๆ ตัวโตๆ แบบว่าจะเหมาะกว่าถ้าถือไปนั่งที่กลางตลาดที่โต๊ะที่จัดไว้ และที่สำคัญเมนูเหล่านี้จะเหมาะกับผู้ที่มากลุ่มใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแบบเพื่อนฝูง หรือครอบครัว ได้แก่ปลาสำลีทอดชุบแป้งขนมปัง ปลาอินทรีทอดราดซอส ปลาเผาเกลือก็มีกับเค้าด้วย แต่เห็นเพียงร้านเดียวเท่านั้น ถ้าอยากกินปลาเผาเกลือไม่ต้องเดินเลือกให้เมื่อย

ปูม้าในตลาดประมงท่าเรือพลี รวมภาพปูม้าเริ่มจากเมนูพบบ่อย ก้ามปูนึ่งแกะสำเร็จรูป หรือจะเอาทั้งตัวก็ตามใจ แบบสดๆ นอนมาตัวเขียวๆ ฟ้าๆ ก็มีเหมือนกันราคาของเมนูนี้ขึ้นลงตามค่าเงินบาท เอ๊ย ไม่ใช่ ขึ้นลงตามทองคำ ก็ไม่ใช่อีก (จะฮาไปถึงไหน) ราคามันขึ้นลงตามกลไกทางการตลาด เพราะราคาจากเรือมาสะพานปลาก็ขึ้นลงเหมือนกัน แต่ถ้าการปรับราคาไม่แตกต่างกันมากก็ไม่กระทบกับปูนึ่งเหล่านี้ ความสดของปูดูที่เนื้อ ถ้าไม่สดเนื้อจะฝ่อหายไปและมีกลิ่นแปลกๆ แต่คงไม่มีปูไม่สดขายที่นี่เป็นแน่

สารพัดเมนูกั้ง ถัดเข้าไปเรื่อยๆ ยังไม่สุดตลาดเลยครับแต่ถ้าซื้อมากินตั้งแต่ร้านแรกป่านนี้คงอิ่มกินอะไรไม่ลงไปแล้ว แต่ก็อย่างที่บอกต้องมีเทคนิค เดินดูอย่างเดียวไปเรื่อยๆ ก่อน เดี๋ยวค่อยคิดว่าจะซื้ออะไรที่ร้านไหนจะดีกว่า ร้านแจงลอนแม่เล็กออกทีวีช่อง 3 เป็นตรารับประกันความอร่อย 2 รูปข้างล่างเป็นอีกร้านที่อยู่ติดกัน ขายสารพัดจะกั้ง ไม่ว่าจะเป็นกั้งดอง (อันนี้ไม่ค่อยถนัดขอสุกๆ หน่อยได้เปล่า) ต่อมาก็กั้งทอดกระเทียม (อันนี้เคยกินอร่อยมาก ถ้าขึ้นภัตตาคารราคาจะสูงมากด้วย) ต่อมาก็เป็นกั้งยำ ครบเมนูกั้งของร้านนี้ สุดยอดจริงๆ

กินเล่นสบายๆ สไตล์ตลาดประมงท่าเรือพลี มาดูอาหารกันอีก ยังมีอีกเพียบบางอย่างคุ้นกันดี บางอย่างเห็นแล้วงงๆ ก็ลองดูกันไปครับ ภาพบนซ้ายเห็นอยู่หลายแห่งมีให้กินไม่ยาก ส่วนบนขวาฮ่อยจ๊อปู อันนี้ก็มีให้เห็นเรื่อยๆ หลายๆ แห่ง แต่ที่นี่น่าจะเรียกว่ามีคุณภาพท่าเรือพลีเป็นประกัน ลูกละ 8 บาท ผมก็ว่าไม่แพง นอกจากร้านนี้แล้วก็มีอีก แต่คงไม่ได้เอารูปมาลงให้ทุกร้านอันนี้ก็ต้องขออภัยเพราะรูปที่ถ่ายมามีเยอะมากจริงๆ ดูไล่ลงมาภาพล่างซ้าย เอ๋ มันอะไรหว่า แม่ค้าเฉลยว่านี่เรียกว่าลาบทะเล เป็นเครื่องปรุงในการทำลาบอย่างที่เราคุ้นเคย แต่เปลี่ยนส่วนหมู เนื้อ มาเป็นหอยแมลงภู่ กุ้ง หมึก เป็นต้น เจ้าของร้านก็ยินดีให้ถ่ายรูปกันทุกร้าน ลองเข้าไปเดินๆ ดูจะได้รู้ว่ามันเยอะมาก

ก้ามปู-แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว เดินมาถึงร้าน น้ำ-เล เห็นเจ้าของร้านง่วนอยู่กับการทุบก้ามปูให้ลูกค้า ที่ร้านนี้จะทุบก้ามปูก็ต่อเมื่อมีคนซื้อแล้วเท่านั้น ไม่งั้นก็ยังวางอยู่ในกาละมังขนาดใหญ่ ภาพล่างซ้ายเป็นบรรยากาศหน้าร้านขนมจีน บางทีเวลายังไม่ 4 โมงทำให้คนยังน้อย อีกเหตุผลหนึ่งก็คือคนที่มาที่นี่มุ่งหน้าเข้าหาร้านอาหารทะเลแบบกินง่ายๆ อย่างปู หมึก กุ้ง มากกว่า เดินเลยมาก็เป็นร้านแกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว เนื้อปลาเรียวเซียว ราคาถุงละ 30 บาท ระหว่างนั่งย่อรูปก็ยังอยากกลับไปซื้อ

เอเลี่ยนส์ทะเล เดินไปเดินมาก็ได้มาเห็นร้านบาร์บีคิว ทำเป็นไม้ๆ ผสมระหว่างกุ้ง หมู ไก่ ราคาไม้ละ 10 บาท ก็ว่ากันไปครับ กินเล่นๆ ไป ไอเดียนี้มีร้านเดียว ด้านข้างที่เห็นเป็นร้านยำ ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นยำรวมมิตรทะเลเป็นส่วนใหญ่ แต่พระเองในร้านนี้ก็จะมีแมงดาทะเลแบบนี้กองอยู่เยอะเลย ผมเจอเจ้าแมงดาทะเลนี้ครั้งแรกตอนเป็นเด็กเข้าไปกินร้านอาหารทะเลแถวบ้าน ผมว่ามันหน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดและเรียกแมงดาทะเลว่าเอเลี่ยนส์มาตลอด ไข่แมงดาทะเลเวลาผมเกินเข้าไปมากๆ จะมึนหัวครับหลังจากนั้นผมจะกินแค่คำ 2 คำ ก็จะหยุดกิน

ปลาราดพริกกับไอติมเขย่า เอาละเดินเข้ามาลึกมากแล้วจะสุดท้ายตลาดประมงท่าเรือพลีแล้ว จะบอกว่าด้านในลึกๆ ท้ายตลาดคนน้อยกว่าหัวตลาดมาก เพราะส่วนใหญ่พอเข้ามาแล้วหาอาหารที่อยากกินแล้วก็ซื้อๆ บางคนคงจะไม่เคยเห็นร้านไอติมเขย่าถังแห่งนี้ด้วยซ้ำ เพราะมีร้านเดียวในตลาดประมงท่าเรือพลี และอยู่เกือบท้ายตลาด ส่วนอีกร้านที่น่าสนใจเพราะขายของไม่เหมือนใครก็คือ กระเพาะปลา ก๋วยจั๊บ ก๋วยเตี๋ยวหลอด แผงเล็กๆ ด้านในตลาด

สุดตลาดประมงท่าเรือพลี ในที่สุดเราก็มาได้ครึ่งทางแล้ว เมนูแต่ละอย่างที่เอามาเสนอในวันนี้ก็ทำให้หลายคนทั้งอิ่มทั้งจุกไปแล้วละ แต่ยังไงๆ ด้วยความที่ผมชอบถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ แล้วเอามาให้ดูกันทุกซอกทุกมุมก็จะพาเดินต่อไปอีกด้านหนึ่งของตลาดและก็กลับไปทางหัวตลาดหรือปากทางเข้า สุดตลาดท่าเรือพลีมีร้านไก่ทอดอยู่ร้านนึงเมนูนี้คิดขึ้นมาให้แตกต่างไม่ซ้ำใคร คือไก่ทอดหมักนมสด หรือไก่ทอดนมสด ขั้นตอนการทำคือหมักในนมสดเอามาทอด ไก่เหล่านี้เลาะเอากระดูกออกทั้งหมดเหลือเพียงส่วนเนื้อไก่ กินได้ทั้งหมดยกเว้นไม้เสียบ ขายพร้อมกับข้าวเหนียว มีให้ชิมได้ด้วย เนื้อไก่จะนุ่มๆ หากใครเคยเกินสเต๊ะจระเข้ ซึ่งเป็นเมนูยอดฮิตประจำสวนเสือศรีราชาจะรู้ว่ามันคล้ายกันมากๆ ตอนเล่าให้เพื่อนฟังว่าเนื้อจระเข้มันเหมือนเนื้ออะไรก็นึกไม่ค่อยออก มันคล้ายไก่แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว แต่มากินไก่ทอดนมสดรู้สึกว่ามันเหมือนกันมากแม้จะมีกลิ่นกับรสต่างกันนิดหน่อย
สุดตลาดมีเวที สำหรับการประชาสัมพันธ์จนถึงการแสดงร้องเพลงก็ยังได้ แต่วันนี้ไม่เห็นการใช้เวทีเลยไม่รู้ว่าจะมีการร้องเพลงจริงหรือเปล่า จากนั้นเดินกลับออกทางปากทางจะมีร้านยำอยู่ซึ่งก็เห็นได้ทั่วไป มีเมนูให้เลือกมากมาย ทำให้เราตอนสั่งดังนั้นเลยไม่มีรูปอาหารมาให้ดู พล่ากุ้งที่ยังไม่เห็นในร้านไหนก็จะมีขายให้ที่ร้านนี้ ที่โดดเด่นมาอีกอย่างคือปลาดุกทะเลพล่า ก็มีด้วย

โอ้วว้าว ยำหรือนี่ ร้านยำอีกร้านที่เห็นระหว่างเดินสำรวจตลาด เครื่องยำต่างๆ ก็ดูจะธรรมดาเหมือนร้านยำทั่วๆ ไป แต่เจ้าปลาที่นอนพาดอยู่ตรงกลางยาวๆ นี่ไม่รู้ว่าจะยำยังไง จานละเท่าไหร่

ปูต้มกุ้งเผาข้าวคลุกกะปิ มายังไงกันเมนูเหล่านี้ถึงได้มารวมกันอยู่ในร้านนี้ได้ แลดูแต่ละอย่าง หมึกไข่ย่างกุ้งเผา ปูม้าต้ม ไข่หมึกทอด (เหมือนหอยทอดแต่เป็นไข่หมึกล้วนๆ) ก็เข้าชุดกันดีนี่ ว่าแต่ข้าวคลุกกะปิก็มากับเค้าด้วยนี่สิมันดูแปลกๆ

เกียรติบัตรอาหารทะเล เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเห็นร้านนี้ ขายทอดมันปลาอินทรีย์ 7 ชิ้น 10 บาท ไม่แพงนี่นา มีทอดมันกุ้งจัดมาให้เป็นกล่องๆ กุ้งอบวุ้นเส้นก็มีที่ร้านนี้ เออจริงด้วยเพิ่งนึกได้ว่าเดินมาตั้งนานเพิ่งมาเจอกุ้งอบวุ้นเส้น ร้านนี้ได้รับเกียรติบัตรอาหารทะเลเมนูทอดมันกุ้งเป็นเครื่องการันตีความอร่อยด้วยนะครับ อีกร้านนึงมองยังไงก็ยังนึกไม่ออกว่าขายอะไร (ภาพล่างขวา) เหมือนส้มตำผลไม้

ปลาไข่ทอดปูหลนน้ำพริกไข่ปู มาอีกแล้วสารพัดเมนูตลาดประมงท่าเรือพลี ปลาไข่เป็นปลาชนิดหนึ่ง เรียกกันว่าปลาไข่ ไม่มีในน่านน้ำทะเลไทย ต้องนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน (อันนี้ข้อมูลจากเจ้าของร้าน) ปลาชนิดนี้มีไข่เสมอ เอามาทอดกรอบให้กินได้หมดทั้งตัว อืมน่าสนใจนะนี่ กล่องละ 30 บาทเอง ต่อไปเป็นร้านหอยทอดซึ่งจะขายคู่กับผัดไทเสมอๆ ถัดไปอีกเป็นอีกร้านที่มีเมนูหลายอย่างโดดเด่นกว่าใครในร้านคือน้ำพริกไข่ปู ชุดละ 65 บาททีเดียว นอกจากนี้มีปลาเห็ดโคนสมุนไพร ปูหลน

หลากหลายเมนูจากครัวแม่ประทุม ครัวแม่ประทุมมีอาหารมากมายมาเสนอ ปลาทอดกรอบ ปลาสำลีทอดชุบแป้งขนมปัง ปลาดุกทะเลผัดฉ่า ปลาอินทรีย์ราดซอส อีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นก็มีปลาต้มอ้อย เมนูหลังสุดมี 2 ร้านด้วยกันที่เอามาขาย ปลาต้มอ้อยเป็นเมนูที่หาได้ยากขึ้นมาหน่อยเลยเอามาให้ชมกันครับ แต่ก็อย่างที่บอกอาหารเมนูใดที่ต้องมากินกับข้าวจริงๆ จังๆ หลายคนเลือกซื้อกลับบ้านมากกว่าจะมานั่งกินกันที่ตลาด

อาหารทะเลครบรส อีกร้านหนึ่งในตลาดประมงท่าเรือพลี ที่ขายอาหารทะเลกันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หอย ปู หมึก กุ้ง กั้ง อย่างอื่นๆ ก็ดูจะธรรมดาๆ เหมือนร้านอื่น พอมาดูอาหารประเภทหอยทะเล พี่เค้ามีทั้งหอยแครง หอยแมลงภู่ หอยหวาน หอยเชลล์ เรียงรายกันเต็มแผงหน้าร้านให้เลือกตามอัธยาศัย หากเป็นคนรักพี่เสียดายน้อง เค้ามีบริการหอยทีมคู่ ได้แก่หอยแครงกับหอยแมลงภู่มาคู่กันเสมอ ส่วนทีมผสมหอยหวานมาคู่กับหอยแครงก็มีพี่เค้าจัดให้

ทอดมันปูมาคู่กับแมงดาทะเล ร้านนี้แปลก ขายทอดมันปูกับยำไข่แมงดาทะเล ปูต้ม กั้งนึ่งก็ว่ากันไปแต่แปลกที่ไม่มีการจัดร้านเหมือนร้านที่ขายยำทะเล เพราะร้านนี้ไข่แมงดาเท่านั้น ไปเดินต่อไปอีกหน่อย ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนทะเล (เติมทะเลเข้าไปเพราะมีกุ้งนอนอยู่) อีกร้านเห็นเครื่องปรุงแล้วคงรู้ว่าขายอะไร นี่เป็นร้านส้มตำทะเล อีกโหลนึงมีปูม้าเรียงสูงเต็มโหลเชียว

สารพัดเมนูตลาดประมงท่าเรือพลี อีกรอบครับกับเมนูที่ยังพูดไม่หมดสักที นึกว่าเดินขากลับจะขายอะไรๆ เหมือนกับร้านค้าฝั่งที่เราเดินเข้าไป แต่ที่ไหนได้ยังมีของแปลกๆ ให้เราเลือกกินได้อีกเพียบ เอ้าเริ่มจากหอยแมลงภู่อบหม้อดิน กุ้งอบหม้อดิน ราคา 40-50 บาท ตามลำดับ มากับไส้อั่ว อ้าวแปลกอีกแล้วตรงที่ไส้อั่วนี่แหละ ไปกันต่อกับแผงเล็กๆ มากับข้าวห่อใบบัว ทีแรกเห็นที่ตลาดสามชุก ต่อมาเจอที่ตลาดบ้านใหม่ จากนั้นนี่เป็นครั้งที่ 3 ที่เจอข้าวห่อใบบัวปรากฏตัวในตลาด แต่มันประหลาดที่มาตลาดอาหารทะเล ขายคู่กันกับข้าวผัดปู ในกรณีที่ต้องการสารอาหารอื่นๆ บ้างไม่ใช่กินแต่ปู หมึก กุ้ง หรือจะไปกินกับกับข้าวบางชนิดที่ไม่สามารถจะกินเล่นเปล่าๆ ได้อย่างปลาต้มอ้อย แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว เป็นต้น ต่อจากนั้นเมนูระดับท๊อปฮิตจากแม่กลอง อย่างหอยดองก็มากับเค้าด้วย

ปูเป็นห่อหมกแมงกะพรุน ต่อกันอีกด้วยเมนูอาหารที่มากันแน่นตลาดประมงท่าเรือพลี ปูเป็นนี้มัดมันไว้เห็นตามหมู่บ้านที่ยึดอาชีพทำประมงเป็นหลัก เอากล้องไปจ่อใกล้ๆ มันจะขยับตัวให้รู้ว่าฉันยังไม่ตาย บางร้านจะเอาปูเป็นแบบนี้ละต้มลงไปมันจะสดมากสำหรับคนที่อยากกินอาหารทะเลสด ส่วนผมขอตัวเพราะเห็นมันตอนเป็นแล้วกินไม่ลงจริงๆ อาหารประเภทห่อหมกหาซื้อกันได้ง่ายขนาดกำลังเหมาะสำหรับการพกพากลับบ้านหรือฝากเพื่อน ราคาไม่แพง ต่อมาเป็นแมงกะพรุนลวกจิ้ม สะดวกทันใจ กรุบๆ ตามแบบฉบับของแมงกะพรุน มากับน้ำจิ้มอร่อยๆ กินง่ายๆ ถัดไปเป็นร้านบะห์จ่าง ของกินที่โปรดปรานปกติผมจะซื้อกลับบ้าน ร้านแม่เตียงในอัมพวาก็เป็นร้านประจำของผม มาเจอบะห์จ่างในตลาดประมงท่าเรือพลี ก็เลยลองซื้อมากิน ลูกละ 20 บาท ซื้อมา 3 ลูกเลยทีเดียว ครบเครื่องในราคา 20 บาท อร่อยครับ

รังไร-เรไร เอาละมาร้านนี้กันบ้าง เวลาไปเดินตลาดน้ำเก่า หรือตลาดโบราณ บางทีก็ได้ยินชื่อขนมคุณยายอยู่บ้าง ร้านขนมคุณยายปรากฏขึ้นให้ผมเห็นเป็นครั้งแรกที่ตลาดน้ำอัมพวา ตอนนี้มาเจอขนมเรไร จากร้านขนมคุณยาย ลงท้ายว่ามาจากตลาดเก่าอ่างศิลา 133 ปี ก็ไม่แน่ใจว่าคุณยายท่านนี้เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า เอาละที่ร้านก็จะมีป้ายเชิญชวนให้ลองชิมกันอยู่ เชียนไว้ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตต้งลองสักนิด...แล้วจะติดใจ ด้วยความพิเศษของขนมชนิดนี้ที่ไม่ค่อยได้เห็นเลยเอาลงแบบเต็มๆ ไม่ต้องย่อ (จัดเต็มไปเลย)

ขนมเรไร (รังไร)
รังไรโรยด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้งทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง

อื่นๆ ตลาดประมงท่าเรือพลี มาช่วงท้ายจะทะลุปากซอยแล้ว เอาภาพร้านค้าต่างๆ ที่ขายของประเภทอื่นๆ ซึ่งอยู่ปากทางมาให้ดูกันว่าไม่ใช่อาหารทะเลอย่างเดียวที่มีอยู่ที่นี่ ข้าวโพดอบเนย มะพร้าวน้ำหอมสามพรานปั่นสด เฉาก๊วยนมสด ขนมปังชีส แฮมชีส ปูอัดชีส ไส้กรอกชีส ข้าวโพด หมูหยอง ขนมเบื้อง ฯลฯ พิมพ์จนเมื่อยมือเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีไข่ไก่มาขายกันด้วย มีให้เลือกหลายขนาด มีให้เลือกมากมาย เห็นบางถุงโตจนกว่าจะเชื่อว่านี่ก็คือไข่ไก่

ปูม้าต้มสดๆ เอาละน่าจะครบเรื่องราวเมนูอาหารที่จะแนะนำจากตลาดประมงท่าเรือพลี กันแล้ว หลายอย่างอาจจะซ้ำกันไปบ้างแต่เห็นลักษณะการแพคแตกต่างกัน จำนวนต่างกันเลยเอามาให้เลือก แค่นี้ก็หิวจะแย่แล้วใช่มั้ยละครับ

สวรรค์ซีฟูด บ้างก็บอกว่าตลาดประมงท่าเรือพลีเป็นสวรรค์สำหรับคออาหารทะเล มีเมนูต่างๆ มาให้เลือกมากมายจริงๆ ไปที่เดียวเดินเที่ยวเดียวเลือกได้ทั้งหมด ถ้ามากันแบบครอบครัวใหญ่หรือว่าเป็นกลุ่มเพื่อนๆ ให้คนนึงนั่งเฝ้าโต๊ะ (เลือกคนที่ไว้ใจได้หน่อยนะเดี๋ยวมันจะหมด) คนที่เหลือไปเลือกของที่อยากกินแล้วเอามาวางรวมๆ ไว้ จากนั้นก็จัดการแบบรวดเดียว ถ้านึกอะไรได้อีกหรือว่าไม่อิ่มก็เดินไปซื้อมาเพิ่มอีก แค่ไม่กี่ก้าวจากโต๊ะที่เรานั่ง สวรรค์ชัดๆ ขนมจีบกุ้งที่ไม่ได้มากับรถขายซาลาเปาก็มีที่ตลาดประมงท่าเรือพลี

ไข่แมงดาฉาบ มาพร้อมกับหอยแมลงภู่แต่ดูเหมือนจะมาประดับร้านเท่านั้น พระเอกคือไข่แมงดาทะเลฉาบนี่เอง มันเป็นของหวานที่ออกจะโบราณมีมานานแล้ว ย้อนหลังไปตอนสมัยเด็กๆ ก็เคยกินหลังจากนั้นมันก็หายไปนานมากๆ จนมาเจอกันอีกที่ตลาดประมงท่าเรือพลีในวันนี้ รสหวานๆ มันฉ่ำๆ นุ่มๆ เหนียวๆ หนืดๆ อย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าลูกค้าจะไม่กล้าซื้อเพราะไม่เคยกินแม่ค้าก็เลยมีไว้ให้ลองชิมก่อนตัดสินใจ แต่อย่างที่บอกผมกันไข่แมงดาทะเลมากๆ จะมึน เลยชิมแค่ปลายส้อมพอมาบรรยายได้เท่านั้น อีกร้านก็มีกุ๋ยช่ายทอดมาให้เป็นตัวเลือกท่ามกลางอาหารทะเลจำนวนมากมาย

สมบูรณ์มหัศจรรย์นมสดปั่น มากันเพียบสำหรับเมนูเครื่องดื่มดีต่อสุขภาพอย่างมากเช่นนมสด เอามาปั่นเกิดเป็นเครื่องดื่มมากมายที่มีนมสดเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ กาแฟชิพ คาปูชิโน่ เอสเพรสโซ่ กาแฟนมสด ชานมสด ช็อคโกแลต โอวัลติน สตรอเบอรี่ โกโก้นมสด โกโก้โอริโอ โกโก้ชิพ นมสดปั่น นมสดโอริโอ แคนตาลูป เผือกนมสด ฯลฯ ราคาต่างกันไป เชิญเลือกชมหน้าร้านได้เลยครับ ภาพเล็กๆ ด้านข้างก็มีน้ำมะพร้าวอ่อน ขนมจาก ข้าวหลาม มาจากหนองมนเลยทีเดียว ต่อจากนั้นก็มีขนมหม้อแกงแม่ละเมียด ทำเองครับ มีรายการทีวีช่อง 3 การันตีความอร่อย (แหมนึกว่าจะมาจากเพชรบุรีซะอีก)

หอยเกียว มาเป็นอันดับสุดท้ายของเมนูอาหารทะเลแห่งตลาดประมงท่าเรือพลี สวรรค์อาหารทะเล ที่มีอยู่จริงในโลก หอยเกียวเป็นอาหารที่ไม่เคยเห็นและไม่เคยกิน จนมาที่นี่ก็ยังไม่กล้าชิม หน้าตาของมันเหมือนหอยแมลงภู่แกะเปลือกออกแล้ว มีอยู่ร้านเดียวตั้งแต่ขาเข้าไป แต่เอามาเป็นรูปปิดท้ายดีกว่า

วิวสวยๆ ตลาดประมงท่าเรือพลี จบทริปการกินอาหารทะเลกันแบบอิ่มหนำสำราญเดินไปยังรถที่จอดอยู่ไกลกว่า 500 เมตร เนื่องจากมีคนเดินทางมาที่นี่อย่างต่อเนื่อง รถที่จอดยาวออกไปเรื่อยๆ บนสะพานข้ามทะเลหน้าตลาดประมงท่าเรือพลี ถ้าคำนวณระยะทางแล้วยาวเกือบๆ 1 กิโลเมตร ทั้งด้านซ้ายและขวาของตลาด ทั้ง 2 ฟากของถนน รวมๆ ก็เกือบ 4 กิโลเมตรเลยนะเนี่ย วิวรอบๆตลาดประมงท่าเรือพลี เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตก ถ้าฝนฟ้าเป็นใจจะได้เห็นดวงอาทิตย์กลมๆ ที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงลับหายไปในทะเล แต่วันนี้คงรอดูพระอาทิตย์ตกไม่ไหวเพราะยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงเหมือนกัน บางครอบครัวอาศัยเดินไปซื้อของกินมาให้มากพอแล้วปูเสื่อริมถนนบนสะพานข้ามทะเลใกล้ๆ รถตัวเองเป็นการปิคนิคง่ายๆ กันเลยทีเดียว เฮ้อขนาดบรรยายยังเหนื่อย ถ้าไปกินทุกอย่างที่บรรยายมาไม่ท้องแตกตายก็คงเป็นโรคคอเลสเตอรอลเกินเฉียบพลันแน่ๆ